วัน จีโนม เอเชีย เป็นหนึ่งใน 25 หน่วยงานชั้นนำ เข้าร่วมพิธีลงนาม MOU กับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมผลักดันเขตส่งเสริม EECmd ในพื้นที่ “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา” เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมทางการแพทย์ครบวงจร หรือ Medical Hub พร้อมก้าวสู่ต้นแบบ Medical Valley แห่งแรกของประเทศ ล่าสุดได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก
จากทั่วโลก พร้อมให้สิทธิประโยชน์จูงใจด้านภาษี 11-13 ปี ขณะที่ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ หนุนสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อภาคธุรกิจและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิต ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ EEC มั่นใจ EECmd มีศักยภาพโดดเด่น เชื่อมต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นำประเทศไทยเป็นฐานเศรษฐกิจชีวภาพหรือ Bioeconomy ตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล
วันที่ 5 เมษายน 2565 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัดงาน THAMMASAT EECmd Vision “Now and Next” ขับเคลื่อน “เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ธรรมศาสตร์พัทยา” (EECmd) โดยมีการลงนามความร่วมมือ (MOU) กับองค์กรด้านการแพทย์และวิศวกรรมกลุ่ม Health Tech ชั้นนำ ทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 25 หน่วยงาน รวมถึง บริษัท วัน จีโนม เอเชีย จำกัด (หรือ OGA) ในด้าน Future Collaboration กลุ่มความร่วมมือด้านการศึกษา ภายในงานยังจัดแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางสุขภาพที่ล้ำสมัย ณ อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า โครงการ EECmd เป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล นวัตกรรม องค์ความรู้ทางด้านการแพทย์และสุขภาพ ภายใต้จุดมุ่งหมาย “Better Future Beyond Boundaries” พร้อมก้าวข้ามพรมแดนแห่งความเป็นสถาบันอุดมศึกษา มุ่งสู่เข็มทิศใหม่ในการพัฒนาประเทศและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผลักดัน EECmd บนพื้นที่ 585 ไร่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา สู่การเป็น ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) สมาร์ทซิตี้ (Smart City) และ สมาร์ทแคมปัส (Smart Campus)
“การลงนาม MOU กับองค์กรพันธมิตรทั้ง 25 หน่วยงาน วันนี้ เป็นความร่วมมือสำคัญที่ส่งสัญญาณว่า EECmd มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา พร้อมแล้วที่จะเปิดรับข้อเสนอการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ นำไปสู่การต่อยอด การพัฒนา ศึกษาวิจัย นวัตกรรมการแพทย์มิติใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย การให้บริการ Wellness , โรงพยาบาลธรรมศาสตร์พัทยาแห่งใหม่ หรือ Digital Hospital , การส่งเสริมธุรกิจ Healthcare , Health Tech , กลุ่มสตาร์ทอัพ และอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต เราพร้อมก้าวสู่ Medical Valley ต้นแบบแห่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย เช่นเดียวกับมหานครชั้นนำระดับโลก”
รศ.นพ. กัมมาล กุมาร ปาวา รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ศูนย์พัทยา มธ. กล่าวว่า “โครงการ EECmd มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา แบ่งพื้นที่เป็น 4 โซนหลัก ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านส่งเสริมเศรษฐกิจ ด้านบริการ และด้านที่พักอาศัย ภายในพื้นที่เรามีแผนการพัฒนาโครงสร้างต่างๆ มากมาย อาทิ สถาบันวิจัยการแพทย์ชั้นสูง , โรงพยาบาลดิจิทัล , ศูนย์ดูแลสุขภาพ (Wellness Health Resort) , ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (Senior Living) และศูนย์กีฬาขนาดใหญ่ (Sport Complex) เชื่อมต่อการลงทุนกลุ่ม Health Tech ชั้นนำระดับโลก ซึ่งขณะนี้ให้ความสนใจติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก นักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นเวลา 11-13 ปี การนำเข้าผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาพักอาศัยในประเทศไทย ฯลฯ โดยมี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมสนับสนุน พร้อมองค์กรพันธมิตรด้านสาธารณสุขที่มองเห็น
ศักยภาพและโอกาสใหม่ๆ มุ่งสู่เป้าหมายการเป็น Medical Hub ในภูมิภาคและสร้าง Medical Valley ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย”
นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “โครงการ EECmd มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลมีการผลักดัน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคตในการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และ Thailand 4.0 ของรัฐบาล เห็นได้ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) หรือ New Engine of Growth มีแผนยุทธศาสตร์ในการผลักดัน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจในภูมิภาค มีเป้าหมายที่จะยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพและด้านสาธารณสุข พัฒนาบุคลากรและมาตรฐานการให้บริการเพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการให้บริการให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล การดำเนินงาน medical hub ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญต่อการสนองตอบต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13
“กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมสนับสนุนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และพันธมิตร EECmd ทั้ง 25 องค์กร ขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใน แผนปฏิบัติราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี สร้างสังคมแห่งอนาคต พัฒนาระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ การวิจัย ค้นคว้า และต่อยอดเทคโนโลยีทางการแพทย์ นำระบบดิจิทัลมาสนับสนุนบริการทางสุขภาพ สู่เป้าหมายเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมได้อย่างแท้จริง”
ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวว่า “พื้นที่ EECmd มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา เป็นหนึ่งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ที่มีศักยภาพสูงในการยกระดับประเทศไทยไปสู่ ระบบเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) ขับเคลื่อนนวัตกรรมธุรกิจ Health and Wellbeing ซึ่งถือเป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันประเทศไทยเป็น Medical Hub ดังนั้น EECmd จัดเป็นพื้นที่รองรับการลงทุนที่สมบูรณ์แบบ น่าสนใจ มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่ง EEC ได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนกว่า 2.2 ล้านล้านบาทในพื้นที่ภาคตะวันออก อาทิ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน , สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา การขยายท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ฯลฯ ดังนั้น การลงนาม MOU ครั้งนี้ จึงเป็นการหลอมรวมพลังและบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทุกมิติ เพื่อสร้างเม็ดเงินลงทุนใหม่หมุนเวียนสู่เศรษฐกิจ นำไปสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยี การต่อยอดผลิตภัณฑ์ และการเข้ามาใช้บริการของชาวต่างชาติได้ในอนาคต” https://pattayacenter.tu.ac.th/newspattaya1